ค้นหาปัญหาเรื่องนั้นไม่เจอใช่ไหม? คุยกับเรา. การพูดคุยที่มีความเป็นส่วนตัว
ฉันจะไม่เสี่ยงกับอะไรทั้งนั้น แต่ความล้มเหลวเป็นอะไรที่ยอมรับไม่ได้ง่ายๆ มันน่าอายและมันผลต่อทุกๆคน
ผมพยายามทำให้ดีอย่างที่พี่สาวทำ แต่ผมเริ่มรู้สึกเหนื่อย เหนื่อยที่จะพยายามแบบนี้ต่อไป ผมไม่อยากจะทำ ไม่อยากฝืนใจที่อยู่อีกต่อไปแล้ว
เพราะการติดพนันของผม ผมต้องเสียบ้านทั้งสองหลังและเกือบจะเสียชีวิตคู่ไป ชีวิตแทบพัง
วันที่สูญเสียขาไป ทุกอย่างมันกลับตาลปัตรไปหมด นี่คือเรื่องราวของผม…
ฉันเริ่มเทียบความรักกับการผอม เพื่อรูปลักษณ์ภายนอก ฉันทำงานอย่างหนักเพื่อที่จะได้ทุกอย่าง
ไม่มีใครสามารถมองเห็นล่วงหน้าได้ว่าการระบาดของโควิด 19 จะส่งผลต่อชีวิตของพวกเรามากแค่ไหน
บางทีความคิดของฉันพาไปที่กักขัง ถูกทอดทิ้ง ถูกขับไล่ ถูกปฎิเสธ ไร้ความเห็นใจ มันน่ากลัวจริงๆ
ผมรู้สึกโดดเดี่ยวและคิดไปว่า การฆ่าตัวตาย นี่คือวิธีเดียวที่จะทำให้ความเจ็บปวดนี้จบสักที
ฉันน่ะรู้ดีเรื่องการรอ คนที่รอมักได้รับสิ่งที่ดีที่สุด แต่ว่ามันนานเกินไปเเล้วนะ ไม่รู้เมื่อไหร่คนที่ใช่จะมาสักที นี้ส่วนที่ยากที่สุดของการเป็นโสด
ชีวิตของผมที่ขาดคุณพ่อและคุณแม่มาตั้งเเต่เด็ก อยู่กับสภาพแวดล้อมเต็มไปด้วยความรุนเเรงยาเสพติด และความขาดแคลน
ความรู้สึกมันเอ่อล้นเต็มไปหมด ทั้งโกรธ เศร้า สับสน อายขายหน้า ฉันจำได้ว่าพูดออกมาดัง ๆ ว่า "ฉันเพิ่งตกงาน!"
เมื่อฉันลองพยายามนึกทบทวนสถานการณ์ที่เกิดขึ้นมันเป็นเพราะฉันเอง ทุกคนต้องมาเดือดร้อนเพราะฉัน
มันไม่เคยบังคับมือผมได้ มันไม่เคยบีบบังคับให้ผมทำอะไรได้หรอก และมันไม่เคยทำให้บังคับทำให้ทำร้ายตัว ยกเว้นตัวของผมทำตัวเอง
แม้ว่าฉันเคยผิดหวังกับชีวิตคู่มาก่อนแต่ไม่เคยคิดหมดหวังกับความรัก แต่ใครจะรู้ล่ะ เมื่อมันเกิดอีกครั้ง ครั้งนี้มันเจ็บบาดลึกกว่าครั้งไหนๆ
ฉันแตกต่างจากเด็กหญิงพวกนั้นนะ ฉันรู้ตัวว่าฉันต้องการจะเป็นเด็กผู้ชาย
ความเครียดและการที่คนอื่นดูถูก คนนั้นคือ "ผู้จัดการ" คนที่ไม่อยากให้ใครดูดีกว่าตัวของเธอเอง...มันเริ่มกระทบต่อชีวิตของฉัน
มันไม่ได้เป็นอย่างที่คิด ความสัมพันธ์ในครอบครัวเริ่มเเย่ลง ความขัดแย้งที่เกิดขึ้นในครอบครัวเกินเยียวยาได้ และพวกเขาพยายามตัดฉันกับลูก
ตอนนั้นผมเรียนอยู่ชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 เพื่อนคนหนึ่งบอกผมว่า "ฉันนอนไม่หลับเพราะพ่อแม่บอกว่า พ่อกับแม่ของนายน่ะเมา" ...มันเป็นอะไรที่กระทบใจผมนะ ครอบครัวของผมไม่ปกติ
แม้ว่าภาวะป่วยทางจิตจากการผ่านเหตุการณ์รุนแรงนิ่งลง แต่มันสามารถกลับมามีผลกระทบต่อชีวิตได้อีก
เมื่อรู้ว่าเป็นมะเร็งเต้าระยะที่ 2 ความรู้สึกนั้นมันอธิบายไม่ถูก สิ่งที่จำได้คือ ฉันเอาเเต่ร้องไห้อย่างเดียว คิดอะไรไม่ออก
เมื่อสามปีที่แล้ว สามีของฉันสิ้นลมหายใจ นี้เป็นการเดินทางของชีวิตที่ยากที่สุดที่ฉันเคยเจอมา นั่นคือ ชีวิตที่ไม่มีเขา
เมื่อชีวิตที่วางแผนไว้ ไม่ได้เป็นอย่างที่คิด การจากไปของคนในครอบครัว การอำลาที่ทำได้ยาก...
ฉันก็รู้สึกติดอยู่ในความมืดที่ทำอะไรไม่ได้ ฉันได้แต่นอนและร้องไห้จนปวดหัวไปหมด วันไหนที่ฉันลุกจากเตียงได้ ถือเป็นชัยชนะเลยทีเดียว
ไม่เคยคิดว่าชีวิตนี้จะเจอกับโรคที่ไม่เคยได้ยินมาก่อน ขอให้มันไม่ใช่เรื่องจริง...
สามีส่งข้อความที่ดูล่อแหลมทางเพศไปให้ผู้หญิงมากหน้าหลายตาที่เขาพบเจอทางอินเตอร์เน็ต
มันเป็นครั้งแรกในชีวิตที่เขาทำให้ฉันรู้สึกอย่างมาก... ทุกอย่างรอบตัวนั้นดูสวยงาม การได้อยู่กับเขา...มันดีอะไรอย่างนี้นะ แต่แล้วสิ่งต่าง ๆ ก็เปลี่ยนไป...